ยูเอฟโอตกที่รอสเวลล์
![]() |
ยูเอฟโอตกที่รอสเวลล์ |
ยูเอฟโอตกที่รอสเวลล์ (Roswell UFO incident) เมืองรอสเวลล์ รัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ยูเอฟโอที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ มีคำอธิบายเหตุการณ์หลากหลายทฤษฎี แม้รัฐบาลสหรัฐจะออกมาประกาศว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นบอลลูนตรวจสภาพอากาศ แต่คำอธิบายนี้กลับไม่มีใครเชื่อ ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเชื่ออย่างสนิทใจว่า เหตุการณ์นี้คือยูเอฟโอตกจริงๆ
วันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 วิลเลียม แม็ค บราเซล (William Mack Brazel) เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ นอนหลับ กลางคืนมีฝนฟ้าคะนอง มีฟ้าผ่า มีแสงวูบวาบ บราเซลได้ยินเสียงระเบิดดังมากมาจากทางฟาร์มของตน เเต่ไม่ได้ไปดู
วันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 แม็คบราเซลเดินตรวจเช็คดูฟาร์มปศุสัตว์ จึงพบจานบินทรงกลมสีเทาเงินจอดบนพื้นดินฟาร์มปศุสัตว์ ในลักษณะตะแคงข้าง ปีกข้างหนึ่งจมปักในพื้นดิน สิ่งที่พบนั้นเป็นซากวัตถุโลหะสีเงินเป็นแผ่นๆ สังเกตได้ว่า เศษเหล็กหรือเศษโลหะกระจายเป็นอาณาบริเวณกว้างประมาณ 200 หลา (182.88 เมตร) ชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายอยู่นั้น มีเป็นแผ่นโลหะเบาและบาง แต่ทนทานมาก สามารถพับไปมาได้ราวกับแผ่นกระดาษหนังสือพิมพ์ เศษโลหะคล้ายกระดาษฟอยล์สีตะกั่ว มีสิ่งที่คล้ายกับเศษซากอุปกรณ์ของยานพาหนะบางอย่างกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด เศษชิ้นส่วนที่พบเป็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต หลังจากที่ได้เดินสำรวจดูสักพัก สิ่งที่พบตามมานั้น ทำแม็คบราเซลให้ยิ่งตกใจ เมื่อพบเห็นร่างของสิ่งมีชีวิตที่ดูคล้ายมนุษย์ เพียงแต่ตัวเล็กกว่ามาก มีลักษณะ หัวโต ผิวหนังสีเทา นอนเรียงรายกันอยู่ 4 ร่าง ตาย 3 ศพ บาดเจ็บ 1 อาการบาดเจ็บเกิดจากแผลไฟไหม้ แม็คบราเซลรับรู้ได้ทันทีว่าสิ่งนี้ไม่ใช่มนุษย์ดาวโลก แมคบราเซลจึงยุติการสำรวจเพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย
วันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 เช้ารุ่งขึ้นแมคบราเซลนำเรื่องการค้นพบไปแจ้งให้กับ จอร์จ เอ. วิลค็อกซ์ นายอำเภอเมืองรอสเวลล์ มีการออกข่าวครั้งแรกโดยสถานีวิทยุท้องถิ่นว่า เกิดเหตุจานบินตกที่ไร่ของแม็คบราเซล นายอำเภอเเนะนำว่า เรื่องดังกล่าวอยู่เหนือหน้าที่รับผิดชอบของตน จึงได้บอกให้เขาติดต่อไปยังกองทัพอากาศสหรัฐฯประจำเมืองรอสเวลล์
วันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 เมื่อกองทัพอากาศทราบเรื่องจึงได้ส่งนายทหาร จำนวน 2 นาย คือ นาวาอากาศตรี เจสซี มาร์เซล (Jesse Marce) หน่วยต่อต้านข่าวกรองของกองทัพ เเละ นาวาเอก วิลเลี่ยม บลันชาร์ด ผู้บังชาการฝูงบินที่ 509 มายังฟาร์ม แม็คบราเซลพานายทหารทั้ง 2 นาย เดินทางไปยังจุดที่วัตถุประหลาดตก ยิ่งทั้งหมดเดินทางเข้าไปใกล้เท่าไรยิ่งค้นพบเศษซากของวัตถุประหลาดนั้นมากยิ่งขึ้น และก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่า เศษซากที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นดินนั้น เป็นชิ้นส่วนของจานบินที่มีมนุษย์ต่างดาวนอนเสียชีวิตอยู่ด้วย หลังจากค้นพบ ทหารรีบติดต่อกองทัพสหรัฐ เพื่อนำกำลังทหารเข้าสำรวจพื้นที่เพิ่มเติม และนำผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ทันที ทหารเก็บซากโลหะประหลาดออกไป และที่สำคัญแม็คบราเซลเห็นทหารนำศพมนุษย์ประหลาดออกจากซากจานบินตกด้วย นาวาอากาศตรี เจสซี มาร์เซล มีการรขึงเชือกกันบริเวณจุดตกไม่ให้ใครเข้าใกล้ นาวาเอก วิลเลี่ยม บลันชาร์ด ผู้บังชาการฝูงบินที่ 509 ได้สั่งให้วางกำลังรายล้อมคอกปศุสัตว์โดยด่วน
วันที่ 8 กรกฎาคม 1947 ช่วงเช้า หลายสำนักข่าวทั่วโลกรายงานข่าวเกี่ยวกับการค้นพบยูเอฟโอตก เเละพบศพมนุษย์ต่างดาว
บ่าย 2 เรืออากาศโท วอลเตอร์ โฮท ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกองทัพอากาศเมืองรอสเวลล์ ได้ออกประกาศผ่านคลื่นวิทยุท้องถิ่น และสำนักข่าวทั่วสหรัฐว่า "กองทัพสหรัฐได้พบยูเอฟโอตก และมีมนุษย์ต่างดาวเสียชีวิตที่เมืองรอสเวลล์" การประกาศในครั้งนั้นทำให้สื่อทั้งในประเทศและนอกประเทศ เฝ้ารอติดตามข่าวการค้นพบครั้งสำคัญของมวลมนุษยชาติอย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นครั้งแรกที่มนุษย์ดาวโลกค้นพบมนุษย์ต่างดาวจริงๆ เเละรับรู้ว่า เราไม่ได้อยู่เพียงลำพังในจักรวาลเเห่งนี้ช่วงเย็น แม็คบราเซลได้ถูกกองทัพอากาศสหรัฐควบคุมเอาไว้ถูกสอบหนัก พร้อมทั้งถูกข่มขู่จากนายทหารทุกเหล่าทัพ และนำไปไว้เกสเฮาส์ และถูกควบคุมตัวอยู่ 2-3 วัน
พลอากาศจัตวา โรเจอร์ เรมีย์ เจ้าหน้าที่ศูนย์รัฐเท็กซัส เคลื่อนย้ายซากจานบินไปที่ศูนย์รัฐเท็กซัส เเละสั่งให้นาวาอากาศตรี เจสซี มาร์เซล เเละนาวาเอก วิลเลี่ยม บลันชาร์ด ถ่ายภาพวัตถุของอลูมิเนียมที่ถูกจัดฉากขึ้น พร้อมได้ปฎิเสธข่าวว่า ไม่มีการลำเลียงเศษซากจานบินออกมาจากพื้นที่แต่ประกาศใด
ประธานาธีบดี เเฮร์รี่ เอส. ทรูเเมน เมื่อทราบข่าว สั่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปรอสเวลล์คือ พลอากาศเอก นาธาน ทวินิง ผู้บัญชาการวัตถุทางอากาศฐานทัพไรท์แพทเทอร์สัน เพื่อย้ายวัตถุซากจานบินจากรัฐเท็กซัสไปฐานทัพไรท์แพทเทอร์สัน หลังจากนั้นถูกย้ายไปทางเครื่องบินมุ่งหน้าสู่ฐานทัพเเอเรีย 51 รัฐเนวาดา
วันที่ 9 กรกฎาคม 1947 ข่าววันรุ่งขึ้น ทางกองทัพอากาศสหัฐได้นำแม็คบราเซลออกมาแถลงการณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับสื่อ แม็คบราเซลได้เล่าเรื่องไปชนิดที่เรียกว่า หนังคนละม้วน โดยกล่าวว่า สิ่งที่พบนั้นเป็นเพียงบอลลูนตรวจอากาศซึ่งหุ้มบอลลูนด้วยฟลอยล์ จึงมีสีเทาเงินไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เป็นถ้อยแถลงสั้นของแม็คบราเซลเซล มีการแถลงข่าวความคืบหน้าการของการค้นพบยูเอฟโอใหม่ ประกาศว่า "สิ่งที่ค้นพบนั้นไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวหรือยูเอฟโอแต่อย่างใด เป็นเพียงเเค่ซากบอลลูนตรวจอากาศ (Weather balloon) ที่ใช้สำหรับวัดสภาพปริมาณทางอากาศที่กำลังทำการทดลองสำหรับโครงการโมกุล (Mogul Project) ที่ตกลงมายังพื้นโลก" เรื่องไม่ได้จบเพียงนี้ จุดเริ่มต้นทฤษฎีสมคบคิด ชาวอเมริกันหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า กองทัพสหรัฐกำลังปกปิดเรื่องการค้นพบมนุษย์ต่างที่รอสเวลล์อยู่ เนื่องจากมีพยานหลายคนยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นที่รอสเวลล์นั้น คือการค้นพบยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาวจริงๆ ไม่ใช่เศษซากของบอลลูนตรวจอากาศแต่อย่างใด อย่างไรก็ดีแม้กองทัพสหรัฐจะออกมาปฏิเสธว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวอย่างที่หลายคนเข้าใจ รวมถึงคลิปวิดีโอที่มีการแอบถ่ายมากมาย เเต่ชาวอเมริกันเชื่อกันเกือบทั้งประเทศ
วันที่ 15 กรกฎาคม 1947 ชาวเมืองรอสเวลล์ประชุมหลายร้อยคนเล่าเหตุการณ์
- แม็ก บราเซล เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ กล่าวว่า "ผมถูกกองทัพข่มขู่เพื่อความมั่นคงของชาติ"
- แฟรงค์ จอยซ์ ผู้จัดรายการวิทยุท้องถิ่น กล่าวว่า "มีการค้นพบร่างของเอเลี่ยนในเหตุการณ์ครั้งนั้น"
- วิลเลียม เอนนิส เจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในฐานทัพรอสเวลล์ กล่าวว่า "วัตถุที่ตกลงมาจากฟ้าครั้งนั้นเป็นวัตถุที่มาจากอวกาศ ผมไม่ทราบว่ามันคืออะไร และตกลงมาได้อย่างไร"
- เกรดีย์ แอล. บาร์นีย์ ชาวไร่ กล่าวว่า "ผมได้พบซากเศษโลหะของจานบิน ขณะนั้นผมกำลังทำงานอยู่ในบริเวณใกล้ที่ราบซานอกุสติน บริเวณห่างจากไร่ปศุสัตว์ของแม็ค ประมาณ 120 ไมล์ ไม่เพียงแต่ผมเท่านั้นที่พบเห็นจานบิน บังเอิญนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งขับรถผ่านมาพอดี สิ่งสำคัญก็คือ ผมได้เห็นศพมนุษย์ประหลาดนอนตายอยู่รอบๆ จานบินด้วย ศพมนุษย์ประหลาดนั้นรูปร่างคล้ายมนุษย์ตัวเล็ก แต่มีศีรษะใหญ่ แขนและขาผอมมาก และที่น่าสังเกตคือไม่มีขน ศพทั้งหมดสวมชุดคล้ายเกราะเหล็กสีเทา ได้สัดส่วนพอเหมาะ เป็นชุดที่ไม่มีกระดุมและซิป ต่อมาทหารก็มาสั่งให้ผม และกลุ่มนักโบราณคดีถอยห่างออกไปจากจานบินลำนั้น และนายทหารที่เป็นหัวหน้าได้กำชับว่า เป็นหน้าที่ของทหารที่ต้องรับผิดชอบ และห้ามทุกคนนำเรื่องที่พบเห็นไปบอกใครเป็นอันขาด"
- จอห์น จี. ทิฟฟานี กล่าวว่า "ในสมัยนั้นบิดาของผมประจำการอยู่ที่ฐานทัพไรท์แพทเทอร์สัน ซึ่งได้เก็บเศษซากโลหะจานบิน เศษโลหะที่พบบางเบา เหนียวทนทาน มีผิวราบเรียบคล้ายกับผิวของกระจก ได้มีเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือตัด หัก งอ หรือพยายามฉีกออกจากกัน แต่ไม่สำเร็จ"
- มีชาวบ้านพบเห็นสัญลักษณ์สวัสดิกะของนาซีเยอรมนี บ้างก็อ้างว่า เห็นอักษรไฮเออโรกลีฟอียิปต์ที่จุดตกของจานบิน
- มีชาวบ้านพบเห็นร่างของมนุษย์ต่างดาวที่มีความสูง 3-4 ฟุต ศีรษะใหญ่ ตาโต
- มีชาวบ้านพบเห็นลูกไฟตกลงมาจากท้องฟ้า
วันที่ 18 กันยายน 1947 ประธานาธีบดี เเฮร์รี่ เอส. ทรูเเมน ริเริ่มโครงการเพื่อความมั่นคงของชาติ สั่งให้เจมส์ ฟอร์เรสตอล (James Forrestal) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมคนเเรกของสหรัฐดูเเลโครงการ
- วันที่ 18 กันยายน 1947 (เปิดเผยต่อสาธารณชน) ก่อตั้งโครงการสมุดสีขาว ซีไอเอ (Central Intelligence Agency) เพื่อความมั่นคงของชาติสหรัฐอเมริกา
- วันที่ 24 กันยายน 1947 (ไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน) ก่อตั้งโครงการสมุดสีดำ มาเจสติก 12 (Majestic 12) เพื่อพิจารณาว่า ยูเอฟโอเป็นภัยคุกคามต่อมวลมนุษยชาติหรือไม่ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับยูเอฟโออย่างเป็นระบบ มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของชาติ มีการประชุมการปรึกษาหารือกันว่า มนุษย์ต่างดาวจะเปิดเผยให้สาธารณชนทราบหรือไม่ คำตอบคือ ไม่
- ค.ศ. 1949 เจมส์ ฟอร์เรสตอล ขอลาออกจากรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม อยากให้ประชาชนทราบเรื่องมนุษย์รอสเวลล์ ภายหลังโดนชายชุดดำอุ้มจับโยนลงจากตึก 10 ชั้น เเละไม่มีการหามูลความจริง เพราะเกิดในพื้นที่ของกองทัพเรือ รายงารสรุปว่า เจมส์ฟอร์เรสตอลทำอัตวินิบาตกรรม เเต่นักวิจัยยูเอฟโอระดับโลกไม่เชื่อ โดนอุ้มต่างหาก